"ฤดูหนาว" ของเชียงรายนั้นต้องมาคู่กลับหมอกอากาศยามเช้าๆที่มีหมอกจางๆอากาศเย็นๆสดชื่น หมอกตามลาดเนินเขาเกิดได้จากบริเวรเนินเขาด้านรับลม เนื่องจากอากาศยกตัวสูงขึ้นตามลาดเขาทำให้เกิดการขยายตัวแบบแอเดียแบติค (adiabatic expansion) แล้วเย็นลงจนถึงอุณหภูมิจุดน้ำค้างจนไอน้ำกลั่นตัวกลายเป็นหมอก อย่างที่ใครก็อยากจะมาสัมผัส
และทะเลหมอกที่เราแอบหวังเฝ้าคอยในการขึ้นภูขึ้นดอยอยากจะเห็นอยากพบ และต้องแลกกับการที่ต้องตื่นเช้าๆสู้กับอากาศหนาวเย็นกับใต้ผ้าห่มอุ่นๆสบายๆในยามที่ข้างนอกห้องพักมีแต่ลมหนาวเย็นเยือก
"ทะเลหมอก" นั้นเป็นหมอกที่ปกคลุมพื้นที่กว้าง ๆ ในหุบเขา การเกิดทะเลหมอกได้ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญสองส่วนนั้นก็คือ การเกิดหมอก และ ทัศนวิสัยในระดับสายตา ค่อนข้างชัดเจนหากไม่มีทั้งสองข้อนี่คุณก็ไม่สามารถชมทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม จะชมได้ก็เพียงหมอกที่คละคลุ้งอยู่รอบด้านเท่านั้น โดยทะเลหมอกเกิดจากการเย็นตัวของไอน้ำในอากาศอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิที่มวลอากาศชื้นควบแน่นเป็นละอองน้ำหรือหยดน้ำ เรียกว่าจุดน้ำค้าง (Dew Point) คือการที่อากาศรับไอน้ำไว้ไม่ได้อีกแล้ว เกิดภาวะอิ่มตัว ความชื้นส่วนเกินจะคงบแน่นกลายเป็นละอองน้ำและหยดน้ำ ทำให้เห็นเป็นสายหมอกและอาจเปียกโชกได้ถ้ายืนอยู่บริเวณนั้น ปัจจัยที่สองของการเกิดทะเลหมอกคือ ทัศนะวิสัยของผู้มอง ต้องค่อนข้างชัดเจน หมายความว่าในระดับสายตาของผู้มองต้องมีหมอกเบาบางกว่าระดับล่าง (เช่น หุบเขา) หรือไม่มีหมอกเลยจะทำให้มองเห็นทะเลหมอกขาวโพลนกว้างไกลออกไป
ปัจจัยที่ทำให้ระดับสายตาไม่มีหมอก ก็คือปัจจัยที่ทำให้หมอกสลายตัว ได้แก่ แสงแดด สายลมแรง และเมฆคลุมฟ้า ความร้อนจากแสงแดดทำให้หมอกในระดับตัวผู้มองสลายไปก่อนจึงมองเห็นทะเลหมอกเบื้องล่าง หรือลมที่พัดผ่านยอดเขาก็ทำให้หมอกระดับตัวผู้มองสลายไปก่อนได้เช่นกัน และการมีเมฆคลุมฟ้าหมายถึงมีการลอยตัวของไอน้ำขึ้นไปยังชั้นเมฆ หมอกชั้นบนก็จะสลายตัวก่อนหมอกชั้นล่างนั่นเอง
ขอขอบคุณ ข้อมูล หมอกและทะเลหมอก
:http://www.sarakadee.com/knowledge/
http://www.aeromet.tmd.go.th/
http://www.tmd.go.th/info
http://info.muslimthaipost.com/main